27 มิถุนายน / 7:47 PM
โรคริดสีดวงทวารหนักและการตั้งครรภ์
โรคริดสีดวงทวารหนักและการตั้งครรภ์...
...สาเหตุการเกิดริดสีดวงในสตรีมีครรภ์ มีดังนี้
-มดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นจะไปกดหลอดเลือดดำในช่องท้องทำให้หลอดเลือดดำที่อยู่ปลายทาง เช่น บริเวณเท้า ขา และก้น มีการไหลเวียนกลับเข้าสู่หัวใจยากขึ้น จึงทำให้เกิดการคั่งของเลือดในบริเวณเหล่านั้นขึ้นได้
การคั่งของเลือดที่กระจุกเลือดที่บริเวณก้นจะเห็นเป็นริดสีดวงทวารขึ้นมา
-เมื่อตั้งครรภ์ร่างกายจะมีการสร้างฮอร์โมนขึ้นมาหลายชนิด ซึ่งฮอร์โมนต่างๆ นี้ส่วนมากจะทำให้หลอดเลือดดำมีการขยายตัวมากขึ้น เป็นผลให้ไปเพิ่มการคั่งของเลือดมากขึ้นไปอีก
อาการท้องผูกที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ก็มีส่วนทำให้เกิดอาการริดสีดวงทวารขึ้นได้ นั่นเพราะเวลาที่คุณแม่ท้องผูกแล้วต้องเบ่งเวลาถ่ายอุจจาระทำให้ต้องใช้แรงเบ่งมาก
-การนั่ง หรือยืนนานๆ ก็เป็นผลให้เกิดอาการริดสีดวงทวารขึ้นได้เช่นกัน เพราะเลือดจะไปรวมอยู่ตรงส่วนที่ต่ำของร่างกายที่เกิดจากแรงโน้มถ่วง จึงทำให้เลือดไปคั่งที่เท้าทำให้เกิดอาการเท้าบวม หรือเส้นเลือดขอดขึ้นได้
ส่วนตรงบริเวณทวารหนักก็ทำให้เกิดอาการริดสีดวงทวารขึ้นมาได้
วิธีการดูแลตัวเองของคุณแม่เมื่อเป็นโรคริดสีดวงระหว่างตั้งครรภ์์
-ควรหาโอกาสนอนตะแคงซ้ายทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อช่วยคลายแรงดันภายในช่องท้อง และถ้าหากสามารถยกขาพาดกับเก้าอี้ได้ประมาณ 20 นาที ก็อาจจะช่วยได้อีกทางหนึ่งค่ะ
-หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ แป้งโรยตัว หรือผ้าเช็ดทำความสะอาดผิวที่มีส่วนผสมของน้ำหอม แนะนำให้ล้างก้นด้วยน้ำสะอาดหลังขับถ่ายและเช็ดให้แห้งสนิท สวมกางเกงชั้นในผ้าฝ้ายให้หลวม ๆ จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวขึ้น
-เข้าห้องน้ำทันทีเมื่อรู้สึกปวดอุจจาระ อย่ากลั้นไว้เด็ดขาด และพยายามหลีกเลี่ยงการเบ่งอุจจาระแรง ๆ
-พยายามออกกำลังกายเบา ๆ วันละนิด เพื่อช่วยให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
ภาวะริดสีดวงทวารไม่เป็นอันตรายใดๆ กับการตั้งครรภ์ และไม่มีผลกับทารกในครรภ์
แต่ทำให้เกิดความรำคาญ คันรอบทวารหนัก เจ็บและมีเลือดติดปนมาเวลาถ่ายอุจจาระหรือหลังถ่าย
ซึ่งริดสีดวงอาจออกมาเฉพาะเวลาที่เบ่งถ่ายและหดกลับไปหลังถ่ายเสร็จ
หรือบางคนอาจเป็นก้อนอยู่ภายนอกยื่นออกมาจากทวารหนักขณะถ่ายอุจจาระ ทำให้เจ็บ
ถ้าบวมมากก็อาจจะปวดมากและเดินหรือนั่งไม่สะดวก ถ้าเกิดการเสียดสีมากอาจมีเลือดออกเรื้อรังและอาจมีอาการซีดได้
Autor: Paweena J.
Tags